หน้าแรก                  เมื่อวันที่ 19-20 เมษายน 2557 นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ เดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิดงาน “Chiang Mai Rabies Zero” ครั้งที่ 4 ภายใต้โครงการรณรงค์ป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ประจำปี 2557 โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ร่วมกับสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดเชียงใหม่, สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 จังหวัดเชียงใหม่, สำนักงานปศุสัตว์อำเภอทุกอำเภอ, สำนักงานสาธารณสุขอำเภอทุกอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งและภาคีเครือข่าย ภาคเอกชนในจังหวัดเชียงใหม่ ณ เชียงใหม่ฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เชียงใหม่ แอร์พอร์ต จังหวัดเชียงใหม่ ได้ดำเนินการจัดงานครั้งนี้ โดยมีวัตถุประสงค์                  1) เพื่อส่งเสริมบทบาทองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการป้องกันควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า                  2) ให้สุนัข-แมวได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าอย่างต่อเนื่อง                  3) เพื่อควบคุมและลดจำนวนประชากรสุนัข-แมว มีเจ้าของและไม่มีเจ้าของและ                  4) เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจเรื่องโรคพิษสุนัขบ้า                  กิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วยจัดบอร์ดนิทรรศการ /กูรูรู้เรื่องสุนัขและแมวโดยบริการให้คำปรึกษา และเล่นเกมชิงรางวัลต่างๆ/ การบริการฉีดวัคซีน/ ฉีดยาคุมกำเนิดสุนัขและแมวให้ฟรี/ ทอล์คโชว์ แบบ หมา หมา โดย อ.สมภาคย์ ชูโชติ และ อ. สมชาย หนองฮี จากสภาโจ๊ก และการแสดง Dance Show ต่างๆ /การแสดง แฟชั่นโชว์ ชุด DOGGY FAS SHOW จากรัชนีฟาร์ม ด้วยสุนัขกว่า 20 ตัว พร้อมกับนายแบบนางแบบ ชื่อดังของจังหวัดเชียงใหม่ และที่สำคัญมีการมอบวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า โดย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ มอบให้ ปศุสัตว์จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 250,000 โด๊ส                                       นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ ได้กล่าวในงานครั้งนี้ ว่าจังหวัดเชียงใหม่นั้นถือเป็นจังหวัดที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากกรุงเทพมหานคร ดังนั้นการบริหารการจัดการเชิงบูรณาการ และการมีส่วนรวมของภาคส่วนต่างๆ เป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนกิจกรรมต่างๆ ให้ประสบผลสำเร็จ สถานการณ์โรคพิษสุนัขบ้าในประเทศไทย ยังต้องมีการเฝ้าระวังและป้องกันอย่างเข้มข้น โดยมีการจัดกิจกรรม ในรูปแบบต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ประชาชนทุกภาคส่วนให้ความสำคัญ และมีการสร้างกระบวนการมีส่วนร่วม ในการเฝ้าระวังและป้องกันโรคดังกล่าวกระผมขอขอเป็นกำลังใจให้ทุกภาคส่วนที่ได้ร่วมมือร่วมใจในการแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจังและ ยินดีที่จะสนับสนุนในด้านงบประมาณเพื่อให้โครงการที่ท่านทั้งหลายตั้งใจจะให้ประสบผลสำเร็จได้สำเร็จตามวัตถุประสงค์ที่ได้ร่วมกันวางไว้ และในตอนท้ายนายวีรชาติ เขื่อนรัตน์ ปศุสัตว์จังหวัดเชียงใหม่ ได้กล่าวสรุปว่า ในอนาคตอันใกล้กรมปศุสัตว์ จำเป็นต้องดำเนินการถ่ายโอนภารกิจโครงการป้องกัน กำจัด โรคพิษสุนัขบ้าให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งเป็นหน่วยงานที่อยู่ใกล้ชิดกับประชาชนมากที่สุด ขณะที่กรมปศุสัตว์ยังคงเป็นหน่วยงานทางด้านวิชาการและให้คำปรึกษา ซึ่งจะต้องทำงานควบคู่กันไป เพื่อสร้างและพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของพี่น้องประชาชนต่อไป                     ปัจจุบันโรคพิษสุนัขบ้าเกิดขึ้นมากกว่า 150 ประเทศทั่วโลก ในแต่ละปีมีประชาชนเสียชีวิตมากกว่า 55,000 ราย ถือว่าเป็นปัญหาทางด้านสาธารณสุขที่มีความสำคัญในประเทศแถบเอเชียและอาฟริกา และในประเทศไทยปี 2552 มีผู้เสียชีวิต 24 ราย ปี 2553 มีผู้เสียชีวิต 15 ราย ในปี 2554 มีผู้เสียชีวิต 5 ราย ปี 2555 มีผู้เสียชีวิต 4 ราย ปี และในปี 2556 มีผู้เสียชีวิต 6 ราย ส่วนการตรวจพบเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าในสัตว์ยังมีการตรวจพบในอัตราที่สูง โดยในปี 2552 ตรวจพบ 341 ตัวอย่าง ปี 2553 ตรวจพบ 215 ตัวอย่าง ปี 2554 ตรวจพบ 218 ตัวอย่าง ปี 2555 ตรวจพบ 191 ตัวอย่าง และปี 2556 ตรวจพบ 117 ตัวอย่าง ซึ่งถือว่ายังเป็นปัญหาที่จะต้องให้ความสำคัญและจะต้องร่วมมือกันต่อไป ส่วนสถานการณ์ของโรคพิษสุนัขบ้าของจังหวัดเชียงใหม่ พบผู้ป่วยที่อำเภออมก๋อยเมื่อปี 2548 จำนวน 1 ราย และปี 2549 จำนวน 2 ราย สำหรับสถานการณ์ในสัตว์ตรวจพบเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า จากตัวอย่างหัวสุนัขที่ส่งตรวจ จำนวน 1 ตัวอย่าง ที่อำเภอสันทราย เมื่อเดือน พฤศจิกายน 2551 พบ 1 ตัวอย่าง จาก 28 ตัวอย่างเมื่อเดือนธันวาคม 2554 พบ 1 ตัวอย่าง จาก 40 ตัวอย่าง ตรวจพบเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าจากตัวอย่างหัวสุนัขที่ส่งตรวจและพบว่าสุนัขดังกล่าวเจ้าของนำมาจากกรุงเทพมหานคร ซึ่งบ่งบอกให้เห็นว่าสถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจควรที่จะมีการ เฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคพิษสุนัขบ้าต่อไป                      องค์การอนามัยโลก(WHO) และองค์การระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ (OIE)มีเป้าหมายที่จะกำจัดโรคพิษสุนัขบ้า ให้หมดไปภายในปี2563 โดยกำหนดแผนยุทธศาสตร์การกำจัดโรคพิษสุนัขบ้าขึ้น 5 ประการ ได้แก่                      1. การบริหารจัดการและบูรณาการการป้องกันควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า                      2. สร้างเสริมบทบาทองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการป้องกันควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า                      3. เฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคพิษสุนัขบ้าในคนและสัตว์                      4. เสริมสร้างการมีส่วนร่วมทุกภาคส่วนและประชาชน                      5. เสริมสร้างความรู้ทักษะและการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการป้องกันควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า โครงการรณรงค์ป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า เป็นกิจกรรมหลักในการขับเคลื่อนให้เป็นไปตามเป้าหมายตามแผนยุทธศาสตร์ดังกล่าว โดยการบูรณาการและมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน